ผู้ส่งออกเกาหลีใต้อ่วม หลังเงินวอนแข็งค่า กัดกร่อนผลกำไร ฮุนได-เกียรายงานกำไรไตรมาส 4 ลดฮวบ นับจากต้นปีนี้ เงินวอนของเกาหลีใต้ทะยานขึ้น 27% เมื่อเทียบกับเงินเยน เพราะการคาดหมายว่านายกรัฐมนตรีคนใหม่ของญี่ปุ่นจะผลักดันให้มีการผ่อนคลายทางการเงิน ทำให้เงินเยนลดฮวบ ขณะที่เงินวอนเทียบดอลลาร์ก็แข็งค่าขึ้น 8.6% นับจากต้นปีนี้ และแตะระดับสูงสุดในรอบ 17 เดือนที่ 1,054.49 วอนต่อดอลลาร์เมื่อวันที่ 15 ม.ค. ส่วนเงินเยนเทียบดอลลาร์ลดฮวบลงสู่ระดับต่ำสุด แนวโน้มดังกล่าวกำลังได้รับการจับตาอย่างกระวนกระวายจากแวดวงธุรกิจในเกาหลีใต้ ซึ่งยอดขายในต่างประเทศมีส่วนแบ่งเกือบครึ่งหนึ่งของเศรษฐกิจในประเทศที่พึ่งพาการส่งออกอย่างมากแห่งนี้ ช่วงทศวรรษที่ผ่านมา อาจกล่าวได้ว่าเกาหลีใต้แข่งขันกันชนิดตัวต่อตัวกับญี่ปุ่นในสินค้าอย่างอิเลกทรอนิก ยานยนต์ และผลิตภัณฑ์เหล็ก จนทำให้สินค้าส่งออกที่มีความคล้ายคลึงกันของสองประเทศ เพิ่มจาก 20% เมื่อปี 2543 เป็นกว่า 50% ในปัจจุบัน นายชิน ยอนซู แห่งสถาบันเศรษฐกิจและการค้าเกาหลี กล่าวว่าผลกระทบจากการอ่อนค่าของเงินเยนที่มีต่ออุตสาหกรรมไอทีอย่างสมาร์ทโฟนซึ่งเกาหลีใต้มีแต้มต่อนั้น มีค่อนข้างจำกัด แต่อุตสาหกรรมอย่างยานยนต์ เครื่องใช้ในบ้าน และเหล็ก ซึ่งการแกว่งของค่าเงินเพียงนิดเดียวก็มีความสำคัญมากนั้น กำลังเผชิญเส้นทางที่ยากลำบาก บริษัทรายใหญ่อย่างซัมซุง และฮุนได เริ่มรู้สึกถึงผลกระทบแล้ว โดยกำไรจากการดำเนินงานไตรมาส 4 ปีที่แล้วของฮุนไดมอเตอร์ ลดลงเกือบ 12% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ทั้งที่ยอดขายเพิ่มขึ้น 11% และหัวหน้าเจ้าหน้าที่การเงินของฮุนไดเตือนว่าคู่แข่งญี่ปุ่นอย่างโตโยต้าและฮอนด้า จะได้ประโยชน์จากการอ่อนค่าของเงินเยนในตลาดที่มีการแข่งขันดุเดือดอย่างออสเตรเลียและรัสเซีย ด้านเกียกล่าวว่าเงินวอนที่แข็งค่าเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้กำไรจากการดำเนินงานไตรมาส 4 ลดลง 51% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน หัวหน้าเจ้าหน้าที่การเงินของเกียกล่าวว่ากำลังพิจารณาที่จะขึ้นราคารถส่งออกหากเงินวอนยังแข็งค่าต่อเนื่อง ด้านซัมซุงรายงานกำไรจากการดำเนินงานมากเป็นประวัติการณ์ 8.84 ล้านล้านวอนเมื่อไตรมาส 4 แต่ระบุว่าจะได้กำไรเพิ่มขึ้นอีก 360,000 ล้านวอนหากเงินวอนไม่แข็งค่า พร้อมเตือนว่าการแข็งค่าของเงินวอนอาจทำให้กำไรจากการดำเนินงานหายไป 3 ล้านล้านวอนปีนี้